The best Side of วิกฤตฟองสบู่สหรัฐ
The best Side of วิกฤตฟองสบู่สหรัฐ
Blog Article
โลกของเราได้เผชิญกับเหตุการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ มาหลายครั้งในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา วิกฤตเศรษฐกิจแต่ละครั้งได้ส่งผลเป็นวงกว้างทั้งในระดับประเทศ ระดับทวีป และทั่วโลก “วิกฤตฟองสบู่” เป็นอีกวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต ซึ่งถ้าใครยังไม่รู้จักกับความเลวร้ายของวิกฤตินี้ ลองมาทำความรู้จัก และเรียนรู้วิธีในการรับมือไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้เลย
สิ่งที่เกิดตามมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ คือภาคเอกชนใช้จ่ายลดลง ธนาคารก็ถูกบีบให้ปล่อยกู้น้อยลง ภาคธุรกิจไม่สามารถกู้ได้ ก็ต้องลดค่าใช้จ่ายลงไปอีก ทำให้อุปสงค์ของทั้งระบบหดตัวอย่างไม่จบสิ้น
แต่ทว่าผลการดำเนินงานไม่สามารถเติบโตได้ตามความคาดหวัง
ประกาศขาย ประกาศเช่า ประกาศขายดาวน์ ค้นหาประกาศ
หมายถึงสถานการณ์ที่ราคาสินทรัพย์พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากการเก็งกำไรมากเกินไป ทำให้เกิดการประเมินมูลค่าที่สูงเกินไป สภาวะตลาดที่พองตัวเช่นนี้ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ และเมื่อฟองสบู่ "แตก" ราคาจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สูญเสียทางการเงินเป็นจำนวนมาก
ธนาคารปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับประเทศกำลังพัฒนา เพราะมองว่ามีศักยภาพและเศรษฐกิจกำลังเติบโต ทั้งประเทศในกลุ่มยุโรปตะวันออกและประเทศกลุ่มละตินอเมริกา เนื่องจากในเวลานั้นประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในขาขึ้น ธนาคารเอกชนจึงให้กู้โดยความยินดี
โบรกเกอร์ คืออะไร วิธีเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด
ข่าวคริปโตวันนี้
อีกทั้งมีงานศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า วิกฤตครั้งนี้เกิดขึ้นก็มีส่วนมาจากประเทศมหาอำนาจทุนนิยมยึดติดกับนโยบายการคลังแบบสมดุล จนทำให้อุปสงค์ในตลาดการค้าระหว่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง
ฟองสบู่แตก คือ อะไร: รู้ทันสถานการณ์และวิธีรับมือ
อ่านมาจนถึงตอนนี้ เราก็อาจจะเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วว่า เฮ้ย! หรือว่า ฟองสบู่กำลังจะแตกจริง ๆ ?
การลงทุนมีความเสี่ยง อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน
แต่หากความคาดหวังนั้นสูงเกินไป view จนไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงก็จะเกิดปัญหา
พฤติกรรมที่ดูเกินจริงที่กระตุ้นให้เกิดการพุ่งสูงขึ้นนี้มักเกิดจากอคติทางการเงิน ความคิดแบบหมู่คณะทำให้บุคคลเดินตามผู้อื่นเข้าสู่ตลาดโดยไม่เข้าใจการลงทุนอย่างถ่องแท้ การคิดในระยะสั้นจะเน้นที่ผลตอบแทนทันที โดยนักลงทุนเชื่อว่าพวกเขาสามารถออกจากตลาดได้ก่อนที่ตลาดจะเกิดการล่มสลาย ความขัดแย้งทางความคิด ซึ่งผู้คนจะเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือนและยอมรับเฉพาะข้อมูลที่ยืนยันความเชื่อของตนเท่านั้น ยิ่งทำให้ฟองสบู่ขยายตัวมากขึ้น ปัจจัยทางจิตวิทยาเหล่านี้สร้างวัฏจักรที่ไม่ยั่งยืน ซึ่งท้ายที่สุดจะสิ้นสุดลงด้วยการปรับฐานตลาดอย่างกะทันหันเมื่อฟองสบู่แตก